การค้น การจับกุม และการสอบสวน
ข้อเท็จจริง ร้อยตำรวจโทสมชายกับพวกเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียนได้นำหมายค้นไปตรวจค้นที่บ้านของนายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนที่บ้านดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 50 เม็ด ในกระเป๋าเสื้อของนายหนึ่ง ซึ่งนายหนึ่งให้การยอมรับว่า ได้ซื่อเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวมาจากนายสอง ร้อยตำรวจโทสมชายกับพวกจึงให้นายหนึ่งพาไปที่บ้านของนายสองซึ่งเปิดร้านข้าวแกงอยู่ในเขตท้องที่ของสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันแล้วร้อยตำรวจโทสมชายกับพวกจึงเข้าตรวจค้นตัวนายสอง ขณะที่นายสองกำลังขายข้าวแกงอยู่ภายในร้าน ซึ่งขณะนั้นมีลูกค้านั่งรับประทานข้าวแกงอยู่ โดยมิได้ไปขอหมายค้นและหมายจับจากศาลก่อน เนื่องจากเห็นว่าเป็นกรณีเร่งด่วน ผลการตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนจำนนวน 200 เม็ดในกระเป๋ากางเกงของนายสอง จึงจับกุมนายสองนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียนสอบสวนและสรุปสำนวนเห็นควรสั่งฟ้องนายสองเสนอพนักงานอัยการ ส่วนนายหนึ่งพนักงานสอบสวนได้แยกไปดำเนินคดีต่างหากอีกสำนวนหนึ่ง ต่อมาพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนายสองเป็นจำเลยต่อศ่าลในฐานความผิดมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย นายสองจำเลยได้ปฏิเสธและต่อสู้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจค้นและจับกุมโดยไม่ชอบ พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนมาโดยมิชอบ
ประเด็นคำถาม ให้วินิจฉับว่า ข้อต่อสู้ของนายสอง จำเลยฟังขึ้นหรือไม่
ข้อกฎหมาย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78(1) มาตรา 93 มาตรา 18 วรรคสอง มาตรา 2(6) และมาตรา 120
การให้คำปรึกษา
การที่เจ้าพนักงานตำรวจเข้าทำการตรวจค้นนายสองซี่งกำลังขายข้าวแกงอยู่ในร้านโดยมีลุกค้านั่งรับประทานข้าวแกงอยู่นั้น เห็นว่า ร้านข้าวแกงดังกล่าวไม่ใช่ที่รโหฐานแต่เป็นที่สาธารณสถาน เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจมีเหตุอันควรสงสัยว่านายสองมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นความผิดต่อกฎหมาย เจ้าพนักงานตำรวจย่อมมีอำนาจค้นตัวนายสองได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 93 และเมื่อตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีอยู่ในความครอบครองของนายสอง การกระทำของนายสองจึงเป็นความผิดซึ่งหน้า เจ้าพนักงานตำรวจจึงมีอำนาจจับนายสองโดยไม่ต้องมีหมายจับตามมาตรา 78(12) การตรวจค้นและจับกุมในกรณีดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย ข้อต่อสู้ของนายสองจึงฟังไม่ขึ้น
การที่พนักงานตำรวจจับนายสองพร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนได้ที่ร้านข้าวแกงของนายสองซึ่งอยู่ในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน การมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จึงเกิดในท้องที่สถานีตำรวจนาครบาลบางยี่ขัน และโจทก์มิได้ฟ้องว่านายสองร่วมกระทำความผิดกับนายหนึ่ง ดังนั้น แม้นายหนึ่งถูกจับในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน แต่นายสองไม่ได้ร่มกระทำผิดกับนายหนึ่ง การกระทำของนายสองจึงไม่ใช่ความผิดที่เป็นความผิดต่อเนื่องและกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ต่างๆเกินกว่าหนึ่งท้องที่ขึ้นไปตาม มาตรา 19(3) แต่การกระทำของนายสอง ปรากฏชัดแจ้งว่าเกิดในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันตามมาตรา 18 ววรคสองประกอมมาตรา 2 (6) ที่จะเป็นผู้สอบสวน มิใช่อยู่ในเขตอำนาจของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียนที่สอบสวน ดังนั้น การสอบสวนคดีนี้ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจบางขุนเทียนเป็นผู้สอบสวน และสรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องของพนักงานอัยการีนั้น จึงเป็นการสอบสวนโดยมิชอบ พนักงานอัยการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ตาม มาตรา 120 ข้อต่อสู้ของนายสองในประเด็นนี้จึงฟังขึ้น