บังคับชำระหนี้ได้เพียงใด
ข้อเท็จจริง
มารดาผู้ร้องได้โอนกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินให้ผู้ร้องมากว่า 10 ปีแล้ว ในภายหลังมารดาเป็นหนี้บัตรเครดิตและถูกฟ้องให้ชดใช้เงินจำนวนสามแสนบาท ปัจจุบันมารดาไม่มีอาชีพและทรัพย์สินแล้ว แต่มีชื่อมารดาเป็นเจ้าบ้านหลังดังกล่าว
ประเด็นคำถาม
โจทก์จะสามารถฟ้องเอาทรัพย์สินในส่วนของบุตรได้หรือไม่
ข้อกฎหมาย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 วรรคหนึ่ง
การดำเนินการให้คำปรึกษา
การที่มารดาผู้ร้องซึ่งถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีแพ่งต่อศาล และมีชื่อเป็นเจ้าบ้านนั้น ไม่ได้มีผลทางกฎหมายให้มารดาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินที่ตั้งอยู่ด้วย เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่มีอำนาจยึดบ้านและที่ดินออกขายทอดตลาดเพื่อบังคับชำระหนี้ได้เพราะเหตุที่ไม่ใช่ทรัพย์สินของจำเลยในคดี บ้านพร้อมที่ดินดังกล่าวยังคงเป็นของผู้ร้อง
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไม่มีอำนาจเพิกถอนสัญญาให้เพื่อมาบังคับชำระหนี้ได้เพราะเป็นการให้ทรัพย์ก่อนมีการก่อหนี้บัตรเครดิต จึงไม่ถือว่าเป็นการทำนิติกรรมการให้ที่ได้กระทำลงทั้งที่รู้ว่าเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 วรรคหนึ่ง ดังนั้น เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่มีอำนาจเพิกถอนบ้านพร้อมที่ดินที่มีชื่อผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เพื่อชำระหนี้ได้