ซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้รับสินค้า
ข้าพเจ้าติดต่อซื้อสินค้ากับนาย A ผ่านช่องทางออนไลน์ นาย A ใช้ถ้อยคำในการเสนอขายสินค้าที่ดูน่าเชื่อถือ ข้าพเจ้าจึงหลงเชื่อและได้โอนเงินชำระค่าสินค้าให้แก่นาย A ต่อมาข้าพเจ้าเห็นข้อความที่บุคคลอื่นโพสแจ้งเตือนเรื่องการหลอกลวงของนาย A ในลักษณะเป็นการฉ้อโกง เมื่อข้าพเจ้าติดต่อนาย A เพื่อสอบถามเรื่องสินค้า แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
จากการที่ข้าพเจ้าหาข้อมูลจึงพบว่านาย A ได้ฉ้อโกงมาแล้วหลายคน โดยมีวิธีหลอกลวงให้บุคคลอื่น ๆ โอนเงินให้แก่ตนแตกต่างกันไป ขณะนี้ข้าพเจ้ามีพยานหลักฐานพอสมควรโดยรวบรวมจากผู้เสียหายรายอื่น ๆ
ประเด็นคำถาม
- สามารถรวบรวมพยานหลักฐานของผู้เสียหายรายอื่น ๆ เพื่อยื่นฟ้องได้หรือไม่
- หากเจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการล่าช้า ควรยื่นฟ้องภายในระยะเวลาใด
ข้อกฎหมาย
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(3), 343 และ 348
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1)
การให้คำปรึกษา
จากข้อเท็จจริงการที่ท่านตกลงซื้อสินค้ากับนาย A ผ่านช่องทางออนไลน์ และต่อมาไม่สามารถติดต่อนาย A ผู้ขายได้ ประกอบกับพฤติการณ์ของนาย A ที่เจตนาหลอกลวงประชาชนทั่วไปให้โอนเงินแก่ตนเช่นกัน เมื่อเป็นการกระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือด้วยการปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาขน อันเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ซึ่งเป็นความผิดที่ไม่สามารถยอมความได้ ตามมาตรา 348 โดยไม่จำต้องพิจารณาถึงจำนวนผู้เสียหายเป็นสำคัญ และจะเป็นการหลอกลวงบุคคลหลายคนในครั้งเดียวหรือกระทำต่อบุคคลต่างวาระและสถานที่กันก็ได้ และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้เสียหายแต่ละคนที่ถูกหลอกลวงและหลงเชื่อ เท่านี้ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว
นอกจากนี้ เมื่อเป็นการกระทำความผิดผ่านระบบออนไลน์ ผู้กระทำจึงมีความผิดตาม เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) อีกฐานหนึ่งด้วย
ดังนั้น ท่านสามารถรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นประกาศขายสินค้า หลักฐานการจ่ายเงิน หมายเลขบัญชีธนาคารที่ทำการโอนเงินชำระค่าสินค้า ข้อความที่แสดงให้เห็นถึงการติดต่อระหว่างท่านและนาย A ผู้ขาย รวมถึงพยานหลักฐานของผู้เสียหายรายอื่น ๆ ด้วยก็ได้ (หากท่านมี) เพื่อยืนยันและสนับสนุนความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และเมื่อท่านเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ท่านสามารถนำใบแจ้งความไปติดตามหาที่อยู่ของผู้ขาย โดยหากเป็นการประกาศขายสินค้าผ่านเว็บบอร์ด ให้ท่านนำใบแจ้งความไปติดต่อดูแลเว็บบอร์ดเพื่อตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของผู้ขาย เช่น IP Address และ Internet Service Provider (ISP) เพื่อหาตำแหน่งของผู้ขายได้จาก IP Address หรือท่านสามารถติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อขอข้อมูลที่อยู่ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี หากท่านเห็นว่าเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินการล่าช้า ท่านสามารถรบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีอาญาได้ด้วยตนเอง โดยท่านจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 10 ปี นับแต่วันกระทำความผิด ตามมาตรา 95 (3) มิฉะนั้นเป็นอันขาดอายุความ
กล่าวโดยสรุป ท่านสามารถดำเนินคดีได้ด้วยตนเอง หรือเข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป โดยท่านสามารถรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด รวมถึงพยานหลักฐานของผู้เสียหายรายอื่น ๆ เพื่อยืนยันและสนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามข้อกล่าวหา และในท่านจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 10 ปี นับแต่วันกระทำความผิด มิฉะนั้นเป็นอันขาดอายุความ